Monday, July 23, 2012

รีวิว Vigo Champ CNG สุดคุ้ม กิโลเมตรละ 1 บาท

โตโยต้า เพิ่มทางเลือกในตลาดรถปิกอัพด้วย Hilux Vigo Champ CNG ติดตั้งระบบก๊าซ CNG จากโรงงานโตโยต้า ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2700 ซีซี 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3800 รอบ/นาที รองรับก๊าซโซฮอล์ E10 เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก คือ มาตรฐาน กระบะตอนเดียว และตอนครึ่ง Smart Cab บานแค็บเปิดได้ หลังจากที่เราได้นำเอารีวิวของ Toyota Vigo Champ CNG 2.7 J M/T SmartCab มาให้ได้อ่านกัน

 “สยามธุรกิจ” ได้ลองขับ Vigo CNG โดยทางบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เชิญทีมงานสยามธุรกิจเข้าร่วมทดสอบ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระยะทางรวมไป-กลับประมาณ 470 กิโลเมตร



รุ่นตอนครึ่ง Smart Cab ภายนอกรูปร่างหน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไร แอบผิดหวังเล็กน้อย เมื่อเปิดฝาเติมน้ำมัน มีเฉพาะช่องเติมน้ำมันเท่านั้น ไม่มีช่องอัดก๊าซเหมือน อัลติส CNG ในจุดนี้สอบถามทีมงานโตโยต้าบอกว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากบริเวณฝาน้ำมันไม่มีพื้นที่เหลือให้ท่อก๊าซเดินผ่านมาได้เหมือนรถเก๋ง ด้านท้ายกระบะมีไลเนอร์มาให้พร้อมเลยครับ คลุมปกปิดถังก๊าซดูเรียบร้อยมาก แต่เสียพื้นที่ท้ายไปเยอะพอควร มีเบาะหนังมาให้ด้วยแฮะ ทั้งสองรุ่นมีจอ LCD ติดมาให้ด้วย โดนใจมากครับ มีกุญแจรีโมตเซ็นทรัลล็อก, กระจกมองข้างไฟฟ้า, กระจกหน้าต่างไฟฟ้า, เครื่องเสียงมีช่องเสียบ USB เล่นเพลงจาก iPhone ได้พร้อมชาร์จแบต การเดินทาง 2 คนพร้อมสัมภาระที่กระบะหลังมีน้ำหนักถ่วง 300 กิโลกรัม (รุ่นตอนครึ่งถ่วง 400 กิโลกรัม)

เริ่มต้นออกเดินทางจาก โรงแรมโอกุระ บนถนนวิทยุ วนออกถนนพระราม 4 เพื่อขึ้นทางด่วนบ่อนไก่ มุ่งหน้าพระราม 9 เข้ามอเตอร์เวย์แล้วเบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง แวะทานอาหารกลางวันที่ มธุรสเรือนแพ จากนั้นเดินทางต่อไปยังที่พัก โรงแรมโรแมนติค รีสอร์ท แอนด์ สปา รวมระยะทางขับประมาณ 300 กิโลเมตร ระหว่างทางมีการสลับไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงสั้นๆ เพื่อดูว่าสมรรถนะ จะแตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งก็พบว่าเมื่อใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะรู้สึกว่า อัตราเร่งดีกว่านิดเดียว ระหว่าง CNG กับน้ำมันเชื้อเพลิงต่างกันประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่จับผิดกันจริงๆ ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยครับ

ขับไปสักพักเริ่มเข้าเขต ทางลาดชันคดโค้ง ถนนเลนสวน ต้องมีการเร่งแซงหลายครั้ง มีทั้งการลากรอบสูง ทำความเร็วระดับ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ที่ขับด้วยก๊าซ CNG มีการตอบสนอง ตามปกติ ไม่มีอาการวูบหรือแรงตกแต่อย่างใด อัตราเร่งไม่หวือหวามากแต่ก็ไม่อืด การเร่งแซงต้องเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำช่วย

คันที่ผมขับก๊าซหมดที่ระยะทาง 280 กิโลเมตรตามหน้าปัด ระบบตัดไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยอัตโนมัติ และจะมีเสียงเตือนว่ากำลังใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ขับต้องกดยืนยันอีกครั้งเสียงเตือนจึงจะเงียบ ถ้าคิดจากความจุเต็มถัง 28.5 ลิตร เติม CNG เต็มถังเป็นเงินประมาณ 300 บาท ขับได้ระยะทาง 300 กิโลเมตร คิดเป็นค่าใช้จ่ายกิโลเมตรละ 1 บาท และมีรถเพื่อนสื่อมวลชนอีกหลายคันที่ขับได้ถึง 300 กิโลเมตร หน้าจอแสดงระบบก๊าซแบบจอ LCD และสวิตช์ควบคุมการเลือกระบบเชื้อเพลิง ติดตั้งบนแผงคอนโซลฝั่งขวาเยื้องไปด้านล่างของฝั่งผู้ขับ แสดงข้อมูลได้หลากหลาย การควบคุมถือว่าไม่ยุ่งยาก คนที่ไม่คุ้นเคยกับระบบก๊าซก็สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องโดยใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน 



ช่วงล่างนุ่มกว่าที่คิด รถทดสอบทุกคันได้รับการถ่วงน้ำหนักไว้บนกระบะหลัง เพื่อให้ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากขึ้น และเพื่อให้ขับสบายขึ้นด้วย เพราะเมื่อมีน้ำหนักกดด้านท้าย ช่วงล่างหลังที่ออกแบบมาสำหรับการบรรทุกก็จะดีดดิ้นน้อยลงด้วย ตลอดการขับจึงมีความนุ่มนวล และเกาะถนนดีพอสมควร ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำ ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ต้องกดเบรกลึกนิดจึงจะรู้สึกถึงแรงหน่วง

หลังจาก Test Drive บอกตรงๆ ครับ อัตราเร่ง แทบไม่มีความแตกต่างไปจากน้ำมันเลยครับ ไม่มีสะดุดให้เห็นในช่วงที่เปลี่ยนจากน้ำมันเป็นก๊าซหรือก๊าซเป็นน้ำมัน เสียงเครื่องเงียบใช้ได้เนื่องจากเป็นเครื่องเบนซิน อัตราเร่งแซงทำได้ดีเลยที่เดียว ส่วนเรื่องระบบเบรก ไม่ผิดหวังครับสั่งหยุดได้มั่นใจ ถ้าจะหารถกระบะมือหนึ่งไว้ใช้งานซักคันที่คุ้มค่า ประหยัด สบาย กระเป๋า วีโก้ CNG เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยราคารถมือหนึ่งเพียง 622,000-724,000 บาท

ขอบคุณบทความจาก 

เขียนเมื่อ : // 3:43 AM
หมวดหมู่:

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger.