Sunday, September 23, 2012

น้ำมันเครื่อง/น้ำมันหล่อลื่นนั้น สำคัญอย่างไง ?

พอดีกำลังจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลยมาหาดูความรู้ที่เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องรถยนต์ดูสักหน่อย เผอิญไปเห็นบทความนี้ เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาแปะไว้ที่นี่ครับผม

น้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันหล่อลื่น มีความสำคัญกับระบบเครื่องยนต์ในการทำงานเป็นอย่างยิ่งเพราะทุกๆชิ้นส่วนของระบบเครื่องยนต์เมื่อมีการทำงานแต่ละชิ้นส่วนนั้นก็จะเกิดการเสียดสีกันอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดความร้อนสะสมที่บริเวณพื้นผิวของวัสดุที่เสียดสีกันนอกจากนี้สิ่งสกปรกที่เกิดจาการเผาไหม้ หรือเศษชิ้นส่วน อาจตกค้างอยู่ในห้องเครื่องจึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่อง เพื่อ



• ช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย

• ช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ช่วยลดการสึกหรอ

• ลดการกัดกร่อนที่เกิดจากเศษชิ้นส่วนที่หลุดออกมา และปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น

• ลดการเกิดสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้น และ ช่วยทำให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์สะอาด

• ช่วยระบายความร้อนให้กับชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์

• ช่วยอุดรอยรั่วในห้องเผาไหม้จึงช่วยเพิ่มแรงอัดให้กับเครื่องยนต์

• ช่วยต่อต้านการเกิดฟองอากาศ

• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

ถ้าหากว่าระบบการหล่อลื่นของรถยนต์ที่เราใช้งานหรือบกพร่องหรือใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานแล้วหละก็แน่นอนว่าอายุการใช้งานของรถยนต์ที่เรารักย่อมจะสั้นลงเกินกว่ากำหนด ฉะนั้นการหมั่นดูแลรักษาคอยตรวจตราตรวจเช็ครถยนต์น้ำมันเครื่องรถยนต์อยู่ตลอดเวลาและเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ดีที่ได้คุณภาพมาตรฐานจะช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ไปได้อีกอย่างยาวนาน


โดยทั่วไปน้ำมันเครื่อง มี 3 ชนิดคือ

1. น้ำมันเครื่องธรรมดา ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม ใช้งานได้5,000-7,000 กม.

2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ ใช้งานได้7,000-10,000 กม.

3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์ จากน้ำมันปิโตรเลียมด้วยกระบวนการกลั่นที่ล้ำหน้าจึงมีคุณภาพและความบริสุทธิ์สูงกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา ใช้งานได้10,000-15,000กม.

อย่างไรก็ตามระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ยังขึ้นอยู่กับ ลักษณะการใช้งาน ระยะเวลา และความพึงพอใจของผู้ใช้อีกด้วย

ในปัจจุบันน้ำมันเครื่องมีให้เลือกซื้อหลากหลายยี่ห้อซึ่งถึงแม้จะมีน้ำมันเกรดเหมือนกัน แต่จะมีความต่างกันตรงที่ สารเพิ่มคุณภาพ ซึ่งจะเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละยี่ห้อ

ในการใช้รถทั่วไป เราควรหมันตรวจเช็คระดับของน้ำมันเครื่องเสมอโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง

หากระดับน้ำมันเครื่องสูงเกินไป

น้ำมันเครื่องจะถูกดันผ่านแหวนลูกสูบขึ้นไปเผาไหม้กับน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีเขม่าจับภายในห้องเผาไหม้ ทำให้เครื่องเกิดการน็อค อย่างรุนแรง/ น้ำมันเครื่องจะดันออกทางซีลด้านหน้าและด้านหลังของเพลาข้อเหวี่ยง ทำให้เกิดการรั่วซึมได้ง่าย/ ทำให้เกิดแรงดันในห้องเครื่องสูงและจะดันไอน้ำมันเครื่องออกมาทางท่อระบายได้มาก/ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด

หากระดับน้ำมันเครื่องต่ำเกินไป

ปั๊มน้ำมันเครื่องจะไม่สามารถดูดน้ำมันและส่งไปหล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวภายในเครื่องอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดการสึกหรออย่างรวดเร็วเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องพัง

เขียนเมื่อ : // 12:32 AM
หมวดหมู่:

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger.