Thursday, March 7, 2013

รีวิว Nissan Pulsar 2013

นิสสัน พัลซาร์ สปอร์ต...นั่งสบาย

ช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องถือว่านิสสัน ประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม รถยนต์เกือบทุกเซ็กเมนต์ผู้บริโภคให้การยอมรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น มาร์ช, อัลเมร่า, นาวาราหรือแม้แต่เทียน่าจะมีก็เพียงเซ็กเมนต์ทีด้าเท่านั้น

ถึงขนาด "ทาคายูกิ คิมูระ" ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกปากยอมรับว่า รถในกลุ่มคอมแพ็กต์ ยังเป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงอีกมาก



แต่วันนี้นิสสันได้ปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ ส่ง "นิสสัน ซิลฟี 4 ประตู" ออกมาทำตลาดก่อนเป็นดาบแรกก่อนจะลงดาบสองด้วย "พัลซาร์ คอมแพ็กต์ 5 ประตู"ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มีนาคมนี้

แต่ก่อนที่จะลูกค้าจะได้จับจอง ทีมงานนิสสันขอจัดทริปทดสอบก่อนเปิดตัวเล็กน้อย ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง-จันทบุรี งานนี้ทีมงานไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถมากนัก รายละเอียดน่าจะได้เห็นอีกทีวันแถลงข่าว

สำหรับข้อมูลที่ได้จากการทดลองขับในวันนั้นต้องยอมรับ "พัลซาร์" คันนี้ได้รับการออกแบบมาภายใต้แนวคิดรถแฮตช์แบ็กหรูที่ชาญฉลาดและสะดวกสบาย ภาษาอังกฤษเรียกว่า Smart Stress-free Premium Hatchback เขาบอกว่า ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานในทุก ๆ ไลฟ์สไตล์



ในการแนะนำผลิตภัณฑ์นั้น ทีมงานบอกว่า รถคันนี้เน้นจุดขายปราดเปรียว เส้นสายต่าง ๆ จึงออกมาดูพลิ้วไหว โดยเฉพาะ Waist Line ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตนิสสัน 370Z ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วถือว่าการออกแบบภายนอกของพัลซาร์ คันนี้สะดุดตาดีมาก

โดยเฉพาะในมุมมองด้านข้าง สวยโดนใจจริง ๆ เหลี่ยมมุมถูกลบออกจากรุ่นก่อนเยอะ ทำให้รถคันนี้ดูมีเชปและทรวดทรงลงตัวมากขึ้น

เสริมความเข้มด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และไฟหน้าแบบไบซีนอนโปรเจ็กเตอร์

ขยับเข้ามาในตัวรถ ภายในมาพร้อมกับความสะดวกสบายของห้องโดยสาร เบาะนั่งใช้หนังชั้นดี แต่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในค็อกพิตรถแข่ง โดยเฉพาะปีกด้านข้างของเบาะคู่หน้าที่โอบกระชับกับลำตัว จนบางครั้งรู้สึกไม่สบายเท่าที่ควร นั่งนาน ๆ ดูจะแคบไปด้วยซ้ำ

แต่ด้วยต้องการเน้นความเป็นสปอร์ต ตรงนี้ต้องพยายามมองข้ามแดชบอร์ดตกแต่งด้วยโทนสีดำ และเพิ่มความสปอร์ตด้วยเมทัลลิก เข้าใจได้ว่า นิสสันพยายามให้พัลซาร์มีความเป็นวัยรุ่นมากกว่าซิลฟี่ แต่เนื่องจากพื้นฐานของรถที่เรียกว่าแทบจะไม่ต่างกัน แม้จะรู้สึกว่าพัลซาร์พยายามใส่อารมณ์สปอร์ตเข้ามา แต่ก็ยังดูมีอายุที่ค่อนข้างสูงอยู่ เรียกว่ายังไม่สุดสุด

ขณะที่ความสะดวกสบายก็พอเรียกหาได้ อย่างเช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เหมือนกับซิลฟี พร้อมเสริมระบบควบคุมความเร็วเข้ามาด้วย

พวงมาลัยด้านขวามือมีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบบลูทูท น่าเสียดายเชื่อมต่อได้แค่สัญญาณโทรศัพท์แต่ไม่สามารถฟังเพลงผ่านสัญญาณบลูทูทได้

นอกจากนี้นิสสันยังอำนวยความสะดวกด้วยระบบนำทางเนวิเกเตอร์แบบจอสัมผัส พร้อมกล้องมองหลังและหลังคาแบบซันรูฟ



หากจะพูดโดยรวม แม้นิสสัน พัลซาร์จะพยายามจัดออปชั่นแบบครบครันเต็มสูบ แต่หากจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยเฉพาะฟอร์ด โฟกัส และมาสด้า 3 แล้ว 2 ยี่ห้อหลังยังเป็นต่ออยู่นิดหน่อย แต่ถ้าหยิบยกเรื่องความโอ่โถง ความสะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอย ต้องยกนิ้วให้พัลซาร์คันนี้เลย

อ้อลืมบอกไปนิดว่า พัลซาร์ตัวที่ทีมงานเขาจัดให้ทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่นท็อป เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 174 นิวตัน-เมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที กับเกียร์ XTRONIC CVT ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ "ซิลฟี" โดยพัลซาร์จะมีเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เพิ่มอีกตัวด้วย

ส่วนผู้ที่มองหาเกียร์ธรรมดา ขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะนิสสันไม่ทำ

เมื่อสำรวจตรวจอุปกรณ์ต่าง ๆ กันเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่นิสสัน พัลซาร์คันนี้ จุดแรกที่ต้องขอชมก่อนคือ ความแม่นยำและความคมของพวงมาลัย ที่โดดเด่น แถมด้วยช่วงล่างที่ทั้งหนึบนุ่มและสบายเหมือนซิลฟี

ถามทีมงานยังไม่ได้รับคำตอบว่า นิสสันใช้ช่วงล่างแบบใด...บอกเพียงแต่ว่าช่วงล่างเดียวกับซิลฟีทุกประการ มีที่ต่างออกไปคือขนาดของยาง พัลซาร์ใช้ 17 นิ้ว แต่ซิลฟี่ 16 นิ้ว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริง ๆ แค่ขนาดของยางและล้อทำให้อารมณ์ต่างกันได้ขนาดนี้

แต่ก็นั้นแหละ ความนุ่มของช่วงล่างพัลซาร์คันนี้ดูนิสสันจะใส่มาให้เยอะเกิ๊น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบุคลิกแฮตช์แบค 5 ประตู ที่เน้น "สปอร์ต ขับสนุก"แต่รถคันนี้ เสน่ห์ตรงนี้หายไป



เมื่อกดแป้นเรียกความเร็วไปในระดับ 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นไร้ปัญหา แต่ในจังหวะการออกตัวนั้นเหมือนกับซิลฟี่ไม่มีผิด ต้องรอจังหวะเกียร์และเครื่องยนต์ทำงานค่อย ๆ ไล่ความเร็วขึ้นมา ซึ่งเป็นบุคลิกเฉพาะของเกียร์ CVT

แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตให้รถคันนี้ คือปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ที่หัวเกียร์ช่วยเพิ่ม ความดุดันได้เป็นระยะ แต่ไหน ๆ ก็จัดออปชั่นมาเต็มขนาดนี้แล้ว ผู้ขับก็ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่คาใจว่า ทำไมนิสสันไม่เติมเต็มด้วยเกียร์แบบทริปโทรนิคส์มาด้วยเลย

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ใครที่มองหารถรูปร่างหน้าตาสปอร์ต แล้วนั่งสบาย นิสสัน พัลซาร์คันนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

สนน ราคาค่าตัวรถ Nissan Pulsar 2013 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร น่าจะอยู่ที่หลัก 7.9 แสน ส่วนตัวท็อปรุ่น 1.8 น่าจะขยับไปถึง 9.5 แสน

อดใจรอราคาชัด ๆ อีกครั้ง 7 มีนาคมนี้ ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ

คอลัมน์ เทสต์คาร์
โดย วุฒิณี ทับทอง

เขียนเมื่อ : // 1:25 AM
หมวดหมู่:

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger.