Wednesday, December 12, 2012

รีวิว Honda Brio Amaze

ทดสอบ Honda Brio Amaze ...สมรรนถนะเกินคาด

ตั้งแต่เปิดตัวออกมาเมื่อปีกลายที่ผ่านา Honda Brio แทบจะเรียกว่าเป็นรถยนต์อีโค่คาร์เพียงรุ่นเดียวในตลาดที่เราแทบจะไม่ค่อยได้เห็นบนท้องถนนมากนัก จวบจนมาช่วงหลังที่มีการเดินหน้าดันยอดขายเน้นความลงตัวที่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้รถรุ่นนี้ขึ้นมาหายใจหายคอได้บ้างไม่มากก็น้อย

ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า Honda Brio มีบางอย่างที่ยังไม่ลงตัว จนคนไม่ตัดสินใจคบหามัน แต่แล้ว Honda ก็ค้นพบ ทางสว่าง เมื่อมีข่าวคราวรุ่น 4 ประตู และ ท้ายสุดเป็นตัวตนออกมาในชื่อ Honda Brio Amaze ที่เปิดตัวไปหมาดๆ ก่อนงาน Motor Expo 2012



การมาของรถยนต์ Honda Brio Amฟze ถือเป็นหมากที่สำคัญมาก ของการกลับมาทวงบัลลังค์ความเป็นรถยนต์ขวัญใจมหาชนในรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างตลาดอีโค่คาร์ และมันก็ลงตัวมากขึ้นในการปรับโฉมที่ทั้งสื่อในไทยและต่างประเทศ รวมถึงสาวกของค่ายรถยนต์เจ้านี้เอง ต่างก็คาดหวังที่จะเห็นผลงานที่แตกต่างจากเดิม จากค่ายรถยนต์รายนี้

ภายนอกทันสมัยเพิ่มดีกรีหรูหรา

ความจริงแล้ว จากงาน Motor Expo 2012 ที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเริ่มเห็นหน้าค่าตาของ Honda Brio Amaze ไปแล้วบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการออกแบบให้ความสดใหม่ทผสานลงตัวมากยิ่งขึ้น ตัวรถมีการยืดความยาวออกจากเดิม ราวๆ 380 ม.ม. เพื่อให้การออกแบบดูลงตัวมากยิ่งขึ้นในความเป็น 4 ประตูแต่ยังมีความยาวต่ำกว่า 4 เมตร เพื่อไม่ให้ปีนเกลียวไปหารุ่นพี่ และยังคล่องตัวกว่า ไปพร้อมฐานล้อที่บวกเพิ่มอีก 60 ม.ม. ตอบโจทย์ลงตัวอย่างดี

การออกแบบเน้นย้ำด้วยเส้นสายเดิม ที่ในครั้งนี้ปรับให้มีความลงตัวมากขึ้นด้วยกลิ่นอายของความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้น ความสปอร์ตจากรุ่นที่แล้วถูกขลับด้วยความหรูหรา นำเสนอเข้ามา ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม เน้นให้ความสปอร์ตทันสมัย ลงตัวในแง่ความหรู เหมือนย่อมาจากรุ่นพี่ซีดานกลาง แต่ยังคงความสดใสในแบบ Brio ถ่ายทอดต่อเนื่องทางด้านข้างไปจรดด้านหลัง ผสานความหรูหราเด่นชัดด้วยชุดแถบโครเมี่ยมยาวต่อกันระหว่างชุดไฟท้าย ของรถที่ยิ่งดูดีลงตัวมากยิ่งขึ้น ทุกรุ่นลงตัวกับล้ออัลลอยลายใหม่ ขอบ 14 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 175/70/R14 
 



ห้องโดยสารดูดีเน้นการขับขี่สบาย

ในห้องโดยสาร Honda Brio Amaze เน้นฟังชั้นการขับขี่ที่มุ่งเน้นความลงตัวในความสบายมากยิ่งขึ้น ทุกองค์ประกอบในห้องโดยสารออกแบบมาให้เป็นสีเบจ ที่มีความลงตัวอยู่เป็นทุนเดิม ยังตบแต่งเข้ากับโทนสีน้ำตาลเช่นกัน ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเนื่องจากมันดูแล้วอาจจะทำให้ดูสูงวัย แต่อย่างน้อยการพยายามทำให้มันดูเป็นลายไม้แบบดิบๆ ก็พอโอเคอยู่บ้าง

เบาะนั่งยังเป็นผ้าทังคัน แต่ก็มีการปรับปรุงในแง่การออกแบบ ที่มุ่งเน้นในความเป็นสัจจะวัสดุให้น้อยลง โดยเฉพาะแผงประตูที่มีรั้วรอบขอบชิดดีขึ้น เพิ่มดีกรีที่ดูแล้วไม่ใช่รถยนต์ราคาถูกลงไปได้พอสมควร

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงสำคัญใน Honda Brio amaze ก็คงไม่พ้นในส่วนของเรื่องของการปรับขยายเรือนร่างมากขึ้น ยิ่งกับรถยนต์ 4 ประตู ที่เกิดมาเพื่อนั่งด้วยแล้วนั้น มันเป็นรถยนต์ ที่ถือว่าต้องการหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างจากเดิม ยิ่งการโดยสารตอนหลังถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากไม่แพ้กัน และการปรับความยาวที่เพิ่มขึ้นอีก 380 ม.ม. หรือฟุตเศษๆ ก็ทำให้ มันมีพื้นที่มากขึ้นในการโดยสาร ตำแหน่งท่านั่งถูกปรับปรุงให้สบายโดยเฉพาะผู้โดยสารทางตอนหลัง ด้วยการปรับความยาวและความหนาของเบามากขึ้น จนเคลมว่ามากที่สุดเมื่อเทียยบกับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัย แต่ก็ต้องศูนย์เสียในเรื่องของฟังชั่นเบาะอัศจรรย์พับได้ออกไป ส่วนเบานั่งคู่หน้านั้นลงตัวดีอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องความกระชับและความสบายในการขับขี่ตั้งแต่รุ่นเดิม



เปี่ยมความสปอร์ต กับเกียร์ธรรมดา

ตั้งแต่เริ่มต้นส่งสัญญาณในการเปิดตัวรถยนต์ Honda Brio amaze ค่ายฮอนด้า ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้เราเชื่อว่ารถยนต์ซีดาน 1.2 ใหม่ จะเป็นรถนั่งที่ลงตัวในเรื่องความสบาย จนอาจจะนึกว่าจะทิ้งจิตวิญญาณสปอร์ตออกไป แต่แม้รถเกียร์ธรรมดา อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญมากนักกับกลุ่มรถนั่งแต่มันก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน

เรามีเวลา 15 นาที ในการขับขี่เจ้า Honda Brio Amaze เกียร์ธรรมดา (S M/T) เป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะไปขับในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งในรุ่นนี้จะว่าไปก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญนัก และอาจจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบขับขี่เน้นสมรรถนะ

การขับขี่ Honda Brio Amaze M/T เราแทบจะไม่คาดหวังมากนัก แต่เมื่อเหยียบคลัทช์จมแล้วเข้าเกียร์ ฟีลลิงและความเบาของน้ำหนักแป้นกดถือว่าค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว ความเบาทำให้มันใช้งานง่ายและเหมาะต่อความเป็นซิตี้คาร์ แต่เมื่อถอนออกเพื่อเริ่มเดินหน้าสู่เส้นทาง จังหวะทำงานที่ค่อนข้างสูง แป้นใช้ระยะเดินทางมากไปจนใกล้เคียงรถกระบะดูจะมากเกินไปสักนิดในแง่ของการตอบสนอง ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ขับขี่บางคนเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของจังหวะ ซึ่งอาจจะต้องใช้ความเคยชิน แต่ยังไงในจังหวะปล่อยนี้ค่อนข้างสูงไปจริงๆ



เราออกสุ่เส้นทางพร้อม Walking Speed ราวๆ 8 ก.ม./ช.ม ถือว่าทำได้ดีเมื่อมองว่าใต้ฝากระโปรง Honda Brio Amaze นั้นมาพร้อมขุมพลังขนาดเล็กประหยัดน่ารักแต่จัดจ้านกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลัง สูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที และมันยังมาพร้อมแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรที่ 4800 รอบต่อนาที มากพอจะเรียกว่าทรงพลังในรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับอีโค่คาร์

น้ำหนักที่เบาหวิว 925 กิโลกรัม ทำให้รถคันนี้ออกตัวได้ดี จนอาจจะเรียกว่าดีเกินไป เพราะเมื่อจุ่มคันเร่งไม่เท่าไร รอบเครื่องยนต์ก็ฟาดสุดเส้นแดงที่ 6500 รอบต่อนาที ถือว่าค่อนข้างไวไป จนสับเกียร์ไม่ทัน แม้ในแง่หนึ่งเครื่องเล็กอาจจะต้องลากรอบเพื่อให้ได้ช่วงกำลัง แต่การทำให้มันเร่งที่เกียร์ 1 มาก ก็ค่อนข้างทำให้ขับขี่ฟีลลิงเร่งดูดี แต่ความไวของมันก็ทำให้นึกถึงคนใช้รถทั่วไป ที่อาจจะไม่ได้ต้องการเร่งสูงขนาดนั้นเมื่อนับว่า มันเป็นรถที่เน้นประหยัดออกเนิบๆไปเรื่อยๆก็ไม่เป็นไร

เราลองตรวจสอบอัตราทดเกียร์ของ Honda Brio Amaze ที่เกียร์แรก มันมาพร้อมอัตราทด 3.461 ส่งลงเฟืองท้ายที่มากับอัตราทด 4.294 ถือว่าค่อนข้างเน้นในอัตราเร่งพอสมควรสำหรับเกียร์แรก ยิ่งเมื่อมองรวมกับอัตราทดที่เกียร์ต่อๆไปที่ไล่เรียงจาก 1.869 ,1.171 ซึ่งที่ทำให้แปลกใจมากที่สุดคือ Honda Brio Amaze เซทให้มีตำแหน่ง Overdrive 2 เกียร์ ที่เกียร์ 4 (0.853) และ เกียร์ 5 (0.727) เรียกว่าเน้นสปอร์ตจริงจัง

เรื่องเน้นอัตราเร่งเมื่อมองดูก็ไม่แปลกใจนัก ยิ่ง Brio Amaze เป็นรถยนต์ที่เน้นในการตอบสนองต่อการใช้งานในเขตเมือง และการให้อัตราเร่งที่สูงย่อมช่วยให้รถมีความสามารถในการออกตัวที่ดี นั่นรวมถึงในยามที่ติดบนเนิน ขึ้นที่จอดรถ และ อีกต่างๆนานา มากมายเยอะแยะตาแป๊ะแตก ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเร่งเร็วเกินไปหน่อย และนี่ไม่ใช่รถสปอร์ต ที่ต้องการอัตราเร่งสูงมากนัก



แม้อัตราเร่งที่สูงในเกียรืจะทำให้เราคนทดสอบพอใจในอัตราเร่ง แม้ต้องติงว่าอาจจะไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไป ซ้ำยังทำให้มันมีความสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ แต่การวิ่งไปตามถนน ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ แบบชนบทย่านเขาใหญ่ก็ทำให้เราตระหนักว่า การปรับแต่งช่วงล่างที่ Honda เปิดเผยว่าเน้นการเซทช่วงล่างด้านหลังใหม่ ตั้งแต่ ตัวโช๊ค สปริง รวมถึงการใส่รายละเอียดเหล็กกันโคลงที่หนาขึ้น ก็ทำให้ Amaze ตอบสนองดีขึ้น อย่างเก็นได้ชัด

การสะเทือนที่ซับดีขึ้น ช่วงล่างฟีลลิ่งหนึ่งแน่น ที่สำคัญไม่โคลงในการเข้าโค้งเป็นสิ่งที่เป็นความตั้งใจในการทำให้คันนี้เป็นรถนั่งที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน เมื่อได้ระยะฐานล้อที่เซทมาอย่างลงตัว ด้วย นี่คือรถนั่งที่อาจจะเรียกว่าใล้เคียงคำว่า "เฟอร์เฟค" แต่ การไม่เซทช่วงล่างด้านหน้า ซึ่งทำให้มันมีความแตกต่างนั้น ก็ทำให้ ในบางจังหวะสามารถรับรู้ได้ความนิ่มกว่าของกันสะเทือนทางด้านหน้า ซึ่งอาจจะมองว่าไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอะไรนัก แต่ในยามที่พื้นลื่น อย่างทราย หรือเจอสภาพฝน ขับด้วยความเร็วสูงก็ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จพทำให้เกิดการอาการหน้าดื้อหรือ Under Steering ได้ง่ายกว่า ยิ่งพวงมาลัยใน Amaze เองมีน้ำหนักที่ดีขึ้นแต่การตอบสนองที่ลดลงเล็กน้อย ก็ค่อนข้างน่าจะเป็นห่วงพอสมควร

ลองขับ CVT ฟีลลิ่งดีเกินคาดบนถนนต่างจังหวัด

ลงมาจากเกียร์ธรรมดา อารมณ์สปอร์ตที่มากกว่าที่คิดทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นรถที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และหลังจากใช้เวลาพักใหญ่ในการเฝ้ารอรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ในที่สุด Honda Brio Amaze รุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT ก็พร้อมให้เราสัมผัส

ในการขับขี่ Honda Brio Amaze V CVT ความแตกต่างในรุ่น S และ V ที่ภายนอกมีความแตกต่างน้อยมาก ถ้าไม่นับว่า มือจับและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถบางทีอาจจะแยกไม่ออกเลยก็ว่าได้



ห้องโดยสารทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมด้วยสีเบจ ที่ในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียงจัดมาให้เสร็จสรรพแบบ 2 Din ให้รายละเอียดผ่านสีเมทัลลิก เพิ่มดีกรีที่มีความลงตัวในเรื่องความหรูเข้ามาอีกหน่อย เสริมภาพลักษณ์ที่ดูดีมากขึ้น นอกนั้นจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย เช่น สวิทช์ควบคุมเซ็มทรัลล็อคที่ฝั่งคนขับเป็นต้น

ด้วยความที่ไม่แตกต่างกันมากมายนัก ทำให้เราคุ้นเคย Honda Brio Amaze CVT อย่างรวดเร็ว โดย ช่วงแรกของการทดสอบเราเริ่มต้นในการเป็นผู้โดยสารกันก่อน เพื่อลองจับฟีลลิงในการโดยสารกันดูบ้าง ก่อนจะขับขี่เพื่อซึมซับความรู้สึกการขับขี่ที่ครั้งเป็นเส้นทางออกเดินทางจากเขาใหญ่สู่วัดของสรพงษ์ ชาตรี ก่อนจะกลับมายังจุดสตาร์ท

วันนี้เรานั่งในตำแหน่งตุ๊กตาหน้า ที่สามารถสังเหตได้ชัดในเรื่องของระบบกันสะเทือนที่บอกได้ว่าด้านกลังดีกว่าด้านหน้า แต่โดยรวมแล้ว Honda Brio Amaze เน้น ให้ความลงตัวในการโดยสาร เราสังเกตว่าทางด้านหลังช่วงล่างให้ความนิ่งกว่าอย่างชัดเจน แม้จะเริ่มใช้ความเร็วสูงสำหรับเดินทางไกลก็ตามที ระบบกันสะเทอืนก็สามารถจัดการได้ดี รวมถึงความโคลงของตัวรถ ไม่ว่าจะยามเข้าโค้ง หรือ ลมพัดทางด้านข้างในรุ่นนี้ไม่มีปัญหาสามารถจัดการได้อย่างหมดจดและมั่นใจได้ทุกเส้นทาง



อีกเรื่องที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างลงตัวใน Honda Brio Amaze และปฏิเสธไม่ได้ก้เป็นเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสารที่สามารถทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้จะใช้ความเร็ยวสุงห้องโดยสารก้ยังเงียบไม่มีเสียงลมเล็ดรอดเข้ามาจะมีแต่เสียงยางที่บดถนนจากล้อทั้ง 4 ที่ติ้งมีการบุในส่วนซุ้มล้อถึงจะดีขึ้น

ในที่สุดเราช่วงเวลาของเรากับ Honda Brio Amaze ก็มาถึง โดยในขากลับนี้เราต้องใช้จังหวะเร่งพอสมควร ด้วยจุดกลับรถค่อนข้างกระชั้นชิด การเหยียบคันเร่งมิดพื้นเพื่อเค้น 90 แรงม้ามาใช้งาน เลยเป็นโจทย์ที่เลี้ยงไม่ได้ การตอบสนองของระบบเกียร์ CVT ค่อนข้างทำได้ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เช่นกันกับเกียร์ธรรมดา มันก็ค่อนข้างจะเร่งเร็วในช่วงต้น เรามองเข้ม ฟาดไปเฉียดๆ 5000 รอบต่อนาทีอย่างรวดเร็ว ถือว่าค่อนข้างมากพอสมควร

ในการเซทเกียร์ CVT นั้น อัตราทดที่ให้ช่วงไม่กว้างนัก ระหว่าง 2.419 - 0.421 ถือเป็นการเน้นขับขี่เมื่อล้อหมุนมากกว่ แต่ถึงแบบนั้น Amaze มาพร้อมอัตราทดเฟืองท้าย 4.619 ทำให้มันเร่งดีมากจนจัดจ้าน แต่ยังดีที่เกียร์เปลี่ยนเองทำให้ให้รอบไม่ฟากยันเส้นแดง



วงเลี้ยว 4.6 เมตร มากกว่า 5 ประตูนิดหน่อยทำให้มันกลับรถง่ายยิ่งฐานล้อ ยาว 2,405 ม. ก็ให้ความพอเหมาะพอตัว ในการควบคุมท้ายตามด้านหน้าอย่างว่องไว จนเรียกว่ามันเป็นรถยนตืที่มีแต่ความลงตัวในเรื่องการควบคุม แต่จะขัดก็เรื่องพวงมาลัยที่ตอบสนองช้าบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อมองตามการวางตำแหน่ง ให้เป็นรถหรูสไตล์ลีมูซีก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

การเดินทางขากลับเราเริ่มทำอัตราเร่งเพื่อให้ได้ความเร็วเดินทางที่น่าจะใช้งานจริงในหมู่ผู้ใช้ และที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. บนหน้าปัด เราใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1900 รอบต่อนาที และเมื่อเร่งขึ้นมาเล็กน้อยที่ 120 ก.ม./ช.ม. เราใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 2300 รอบต่อนาที แต่ที่เหมือนเดิมคงไม่พ้นความเร็วปลายที่ทำได้สูงสุดแค่ 145 ก.ม./ช.ม.เนื่องมากจากการล็อคความเร้วไว้ให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย

ระบบกันสะเทือนของ Honda Brio Amaze ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ค่อนข้างให้อารมณ์ความเป็นรถนั่งมากขึ้นเหมือนตอนที่เราได้นั่งในช่วงขาไป และที่น่าประทับใจคือความดคลงของตัวรถที่น้อยลงไปมาก ใกล้เคียงกับรถคอมแพ็คคาร์บางรุ่นเสียด้วยซ้ำ แต่ฟีลลิง ที่ด้านหลังช่วงล่างดีกว่าด้านหน้าแบบว่าชัดเจน ก็ทำให้เรายังรู้สึกหวั่นใจ ซึ่งถึงจุดนี้คงต้องบอกว่ามันประทับใจแต่ยังไม่ที่สุด

แม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือน Honda Brio Amaze จะมีการปรับในส่วนของระบบเบรกที่ต้องชมเชย ในเรื่องความสามารถที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น จนทำให้ในรถรุ่นใหม่นี้ มีความลงตัวในแง่การตอบสนองต่อน้ำหนัก ทั้งทางด้านฟีลลิงที่ดีขึ้นจากที่แป้นเหยียบปลายฝ่าเท้ายิ่งเมื่อมันรวมพลังทำงานกับระบบเบรก ABS และกระจายน้ำหนักผ่านระบบ EBD ช่วยให้ความรู้สึกที่มั่นคงมากขึ้น แต่ในการใช้งานจริง แม้จะไม่ต้องเหยียบหนักจน ABS ทำงาน แต่เพียงแค่แตะนิดๆเบรกก็ช่วยในการลดความเร็วได้ดีจนสามารถสัมผัสอย่างชัดเจน ซึ่งเราได้มีโอกาสสอบถามกับทีมวิศวกรเป็นการส่วนตัวหลังจากการทดสอบ ก็ทำให้ได้ทราบว่า Honda Brio Amaze มีการปรับปรุงชุดปั้มเบรก ซึ่งเป็นชุดปั้มเดียวกับที่ได้มาตรฐานทางฝั่งยุโรป

Honda Brio Amaze อาจจะเป็นอีโค่คาร์ 4 ประตูน้องใหม่ล่าสุดในตลาดกลุ่มนี้ แต่ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ลงตัว เครื่องยนต์ที่เร้าใจ ความปลอดภัยที่ให้อย่างครบครัน ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ครบครันในทุกด้านของความเป็นรถยนต์อีโค่คาร์ที่ต้องผนวกสมรรนถะความประหยัด และความคุ้มค่า เข้าเอาไว้ด้วยกันและที่สำคัญสมการนี้ต้องลงตัว

ที่มา : sanook.com

เขียนเมื่อ : // 7:45 PM
หมวดหมู่:

0 comments:

Post a Comment

 
Powered by Blogger.